ถ้าเราคิดจะแต่งบ้านเพื่อน ๆ หลายคนก็คงจะนึกถึงการตกบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ เป็นลำดับแรกเสมอ ซึ่งก็ไม่ใช่วิธีที่ผิดอะไร แต่อาจจะเป็นการยากสำหรับมือใหม่ ที่ถ้าหาเลือกไม่ดีตั้งแต่แรก ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ที่ตามมาได้ ดังนั้นการเลือกแต่งบ้านจะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก ๆ เช่นโคมไฟตั้งพื้น ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องให้สวยงามมีสไตล์ได้ก่อนที่จะไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ซึ่งในบทความ วิธีการเลือกโคมไฟตั้งพื้น ให้ดูดีมีสไตล์เหมาะสมกับจุดประสงค์การใช้งาน ในแต่ละพื้นที่ของตัวบ้าน เรื่องนี้ เราก็จะมาพาทุกคนไปดูวิธีการเลือกโคมไฟตั้งพื้นให้ถูกวิธีกันครับ ซึ่งจะมีรายละเอียดและสิ่งสำคัญที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง เราไปรับชมพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
วิธีเลือก โคมไฟตั้งพื้น
- อย่างที่กล่าวไปแล้วครับว่า นอกจากโคมไฟจะช่วยเพิ่มแสงสว่าง เพื่อให้คุณสามารถมองเห็นวัตถุรอบตัวได้ชัดเจนแล้ว ยังจัดเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์สำคัญสำหรับศาสตร์การตกแต่งบ้านที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้คนโดยตรง เพราะนอกจากเรื่องของดีไซน์แล้ว รูปแบบของโคมไฟและทิศทางของแสง ก็ยังมีผลบรรยากาศภายในบ้านของคุณอีกด้วย ดังนั้น เรามาดูปัจจัยที่จำเป็นต่อการเลือกโคมไฟตั้งพื้นตามหลักการสังเกตง่าย ๆ กันดีกว่าครับ
- เลือกโคมไฟตั้งพื้นตามประเภทที่ต้องการ ก่อนอื่น เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโคมไฟ 4 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งแต่ละแบบจะมีรูปลักษณ์และจุดเด่นเฉพาะตัวในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น นอกจากจะพิจารณาจากขนาดหรือความสูงของโคมไฟแล้ว คุณยังต้องคำนึงถึงการใช้งานร่วมด้วย
- โคมไฟแบบมีหมวกหรือโป๊ะโคม สำหรับโคมไฟแบบมีหมวกถือเป็นโคมไฟที่มีดีไซน์คลาสสิกและคุ้นตาสำหรับใครหลาย ๆ คน โดยโคมไฟประเภทนี้จะมีหลอดไฟอยู่ด้านบนสุดของเสา พร้อมหมวกโคมไฟที่มีชื่อเรียกว่า “โป๊ะโคม” ซึ่งส่วนมากจะทำมาจากผ้า, แก้ว, แผ่นอะคริลิก และวัสดุอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติโปร่งแสง ถึงแม้องค์ประกอบพื้นฐานจะดูเรียบง่าย แต่ความโดดเด่นจริง ๆ นั้นอยู่ที่โทนสีและความสว่างของแสงไฟ ที่คุณสามารถกำหนดได้ด้วยตัวเองว่า อยากจะให้แสงไฟเป็นสีอะไรหรือสว่างแค่ไหนโดยการสลับสับเปลี่ยนโป๊ะโคม ซึ่งช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับการควบคุมโทนของห้องตามที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดายเลยล่ะครับ
- โคมไฟแบบทรงกลม โคมไฟประเภทนี้จะถูกออกแบบมาให้ตัวหลอดไฟถูกซ่อนอยู่ด้านใน โดยมีกรอบทรงกลมครอบปิดเอาไว้ ซึ่งมักผลิตมาจากวัสดุจำพวกอะคริลิกสีขาวหรือแก้วสีขุ่น ช่วยให้แสงไฟที่เปล่งออกมาดูโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น แต่ในปัจจุบัน นอกเหนือจากทรงกลมที่เป็นมาตรฐานแล้ว ก็ยังมีรูปทรงแบบอื่น ๆ ให้คุณสามารถเลือกซื้อมาใช้ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงกระบอก รูปดาว หรือแม้กระทั่งรูปสัตว์ต่าง ๆ หลายคนจึงมักจะนำไปประยุกต์ใช้กับการตกแต่งบ้านและตกแต่งตามอาคารต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม หากโคมไฟมีรูปทรงที่แปลกตาเกินไป อาจทำให้ประสิทธิภาพในด้านการส่องสว่างด้อยลงกว่าแบบรูปทรงปกติครับ
- โคมไฟสปอร์ตไลท์ สำหรับโคมไฟแบบสปอร์ตไลท์นั้นดูเผิน ๆ แล้วอาจจะคล้ายกับโคมไฟแบบมีหมวก เพราะมีฝาครอบตรงส่วนของหลอดไฟเหมือนกัน แต่จุดที่แตกต่างและสร้างความโดดเด่นให้กับโคมไฟประเภทนี้ คือ ตัวฝาครอบทำมาจากวัสดุทึบแสง เช่น โลหะ ทำให้แสงสามารถส่องผ่านได้เพียงทิศทางเดียว สร้างความโดดเด่นให้กับจุดที่โคมไฟหันไป และยังสร้างบรรยากาศที่ช่วยรวบรวมสมาธิได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับทิศทางและองศาของโคมไฟเองได้อย่างง่าย ๆ เพื่อให้โคมไฟฉายแสงไปยังทิศทางที่ต้องการได้อย่างอิสระอีกด้วยครับ
- โคมไฟแบบอัพไลท์ โคมไฟแบบอัพไลท์หรือเรียกอีกชื่อว่า โคมไฟทรงคบเพลิง เนื่องจากโคมไฟมีลักษณะคล้ายกับแบบหมวกแต่เปิดโล่งด้านบน จนดูคล้ายกับคบเพลิงนั่นเองครับ และด้วยลักษณะเช่นนี้ จึงส่งผลให้แสงไฟที่ส่องสว่างออกมาอยู่ในทิศทางขึ้นข้างบน หลายคนจึงนิยมนำไปวางตั้งไว้ชิดกับผนัง เพื่อให้แสงวาดลวดลายไปตามผนังของบ้านและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นด้วยแสงไฟสลัว ๆ ทั่วทั้งห้อง ให้รู้สึกถึงเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียวครับ
- เลือกตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน โดยปกติแล้ว เราจะใช้โคมไฟเพื่อ 2 วัตถุประสงค์หลัก ได้แก่ การใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น และการใช้เพื่อสร้างบรรยากาศในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น เรามาดูรายละเอียดต่าง ๆ ในเนื้อหาด้านล่างนี้กันเลยครับ
- แสงทางตรง (Direct Lights) เหมาะในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น แสงทางตรง คือ ลักษณะของแสงที่ส่องสว่างมาจากหลอดไฟโดยตรง หลายคนจึงนิยมใช้แสงไฟประเภทนี้ในการส่องสว่างพื้นที่ที่เน้นการมองเห็นเป็นสำคัญ เช่น ในห้องทำงานเพื่อการทำงานหรืออ่านหนังสือ หรือในห้องนอนเพื่อเพิ่มความสว่างในตอนกลางคืน สำหรับการเลือกใช้โคมไฟตั้งพื้นที่เน้นการใช้งานในลักษณะนี้ เราขอแนะนำให้คุณเลือกโคมไฟแบบสปอร์ตไลท์ เพื่อให้สามารถควบคุมทิศทางของแสงได้ แถมยังมีฝาครอบแบบวัสดุทึบแสงที่ช่วยไม่ให้แสงจากโคมไฟสว่างจ้าจนเกินไปอีกด้วยครับ
- แสงสะท้อน (Indirect Lights) เหมาะกับการสร้างบรรยากาศในห้อง แสงสะท้อน คือ ลักษณะของแสงที่ตกกระทบกับสภาพแวดล้อมภายในห้อง ก่อนจะสะท้อนแสงออกมาจนให้บรรยากาศสลัว ๆ ซึ่งมักจะถูกนำมาใช้เพื่อปรับเปลี่ยนบรรยากาศบริเวณนั้น ๆ ให้มีทัศนียภาพที่สวยงามและแปลกตาไปจากเดิม อาจใช้เนื่องในวันเทศกาล เสริมสไตล์การตกแต่งห้อง หรือโอกาสสำคัญต่าง ๆ ทำให้บริเวณดังกล่าวดูมีมิติ น่าค้นหาและดึงอารมณ์สุนทรีย์ในตัวของผู้คนออกมาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างสภาวะที่ผ่อนคลายให้แก่สมอง ลดความตึงเครียดลง นำไปสู่ปัจจัยสำคัญต่อการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายยิ่งขึ้น สำหรับการเลือกโคมไฟตั้งพื้นที่เน้นการใช้งานในลักษณะนี้ คุณควรเลือกโคมไฟที่สามารถควบคุมระดับแสงได้ เช่น โคมไฟแบบมีหมวก, โคมไฟแบบทรงกลม, โคมไฟแบบอัพไลท์ หรือแม้กระทั่งโคมไฟแบบสปอร์ตไลท์เองก็สามารถใช้ได้เช่นกัน เพียงแค่คุณต้องทำการเปลี่ยนทิศทางของโคมไฟ ให้ส่องแสงไปบนผนังหรือเพดานเพื่อลดความสว่าง เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถสร้างบรรยากาศที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
- เลือกจากน้ำหนักของโคมไฟ หลายคนอาจด่วนสรุปไปว่า การเลือกน้ำหนักที่เบาไว้ก่อนย่อมดีกว่า แต่สำหรับโคมไฟตั้งพื้นแล้ว ไม่ว่าจะหนักหรือเบาก็ล้วนมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไปครับ สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก การเลือกใช้โคมไฟตั้งพื้นที่มีน้ำหนักมากจะค่อนข้างตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจากโคมไฟจะมีความมั่นคงสูง แม้ว่าเด็ก ๆ จะเล่นซนแค่ไหน ก็ไม่สามารถผลักให้โคมไฟล้มลงมาได้ง่าย ๆ จึงค่อนข้างปลอดภัยกว่าการเลือกใช้โคมไฟตั้งพื้นที่มีน้ำหนักเบา ขณะเดียวกัน ก็อาจจะเคลื่อนย้ายได้ค่อนข้างลำบาก ดังนั้น ปัจจัยด้านสมาชิกในครอบครัว หรือความถี่ในการเคลื่อนย้าย จึงเป็นอีกจุดที่ควรหยิบมาพิจารณาประกอบการเลือกซื้อครับ นอกจากนี้ หากคุณเลือกซื้อโคมไฟตั้งพื้นที่มีน้ำหนักเบา การพิจารณาเรื่องศูนย์ถ่วงเองก็สำคัญ เพราะโคมไฟตั้งพื้นมีลักษณะของขาตั้งที่สูงยาว หากส่วนฝาครอบหรือโป๊ะโคมของหลอดไฟมีน้ำหนักที่มากเกินไป ก็อาจทำให้ศูนย์ถ่วงขาดความสมดุลได้ คุณจึงควรเลือกฝาครอบหรือโป๊ะโคมที่ผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาด้วยเช่นกัน เช่น วัสดุอะคริลิก, เรซิน, ผ้า เป็นต้น
- เลือกจากฟังก์ชั่นเสริม นอกจากดีไซน์และประเภทของโคมไฟที่ถูกใจและเหมาะสมกับการใช้งานแล้ว ฟังก์ชันอื่น ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณต้องการเลือกใช้โคมไฟแบบสะท้อนแสง ควรมองหาฟังก์ชันการปรับระดับแสงได้ ซึ่งจะช่วยควบคุมไม่ได้แสงภายในห้องสว่างจ้าจนเกินไป ทั้งยังสร้างบรรยากาศได้หลากหลายอีกด้วย นอกจากนี้ โคมไฟตั้งพื้นในปัจจุบันหลาย ๆ รุ่นยังเป็นแบบระบบสัมผัสหรือใช้รีโมตในการควบคุมระยะไกลได้ แถมบางรุ่นยังเปลี่ยนสีได้อีกด้วย ซึ่งคุณสามารถเลือกฟังก์ชันเสริมเหล่านี้ได้ตามต้องการเลยครับ
สรุป
โคมไฟตั้งพื้นนั้นมีรูปแบบให้คุณเลือกซื้ออยู่มากมาย แถมยังต้องคำนึงถึงรูปแบบของแสงและน้ำหนักของโคมไฟ เพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ยิ่งหากคุณมีงบประมาณที่จำกัดด้วยแล้ว ยิ่งต้องคิดเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อเลยครับ ดังนั้นนี่จึงเป็นจุดประสงค์ของบทความ วิธีการเลือกโคมไฟตั้งพื้น ให้ดูดีมีสไตล์เหมาะสมกับจุดประสงค์การใช้งาน ในแต่ละพื้นที่ของตัวบ้าน เรื่องนี้ ที่เราได้จัดทำขึ้นมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนกันครับ