สำหรับการแต่งบ้านไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมอล, สไตล์โมเดิร์น, สไตล์วินเทจ หรือสไตล์ไหน ๆ ให้ดูน่าอยู่นั้นก็จะต้องอาศัยหลักการตกแต่งหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะชุดเฟอร์นิเจอร์, โซฟา, ชั้นวางของ, โต๊ะทำงาน, และอีกส่วนหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้ก็คือพรมปูพื้นนั่นเอง พรมปูพื้น คือ ของตกแต่งบ้านชนิดหนึ่งที่มีความสวยงาม ช่วยสร้างบรรยากาศ สีสัน และพรมบางชนิดยังช่วยยกระดับความหรูหราให้กับบ้านและคอนโดของผู้ซื้ออีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพรมปูพื้นห้องนอน พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น หรือห้องอื่น ๆ โดยวันนี้เราจะพูดถึงพรมปูพื้นผ่านบทความ วิธีเลือกพรมสำหรับปูในบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องนอน เรื่องนี้ครับ ซึ่งก่อนที่เราจะเลือกซื้อพรมนั้นเราจะต้องรู้ให้ดีเสียก่อนว่าเราควรเลือกซื้อพรมแบบไหนและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วเราไปติดตามรับชมพร้อมกันได้เลยครับ
ประโยชน์ของพรมปูพื้น
- ช่วยดูดซับเสียงรบกวนการที่คุณเลือกใช้พรมปูพื้นเข้ามาใช้ตกแต่งภายในห้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน มันก็สามารถช่วยลดเสียงดังหรือเสียงรบกวนจากรองเท้าสลิปเปอร์ รวมถึงเสียงจากโซฟาหรือเฟอร์นิเจอร์ที่กระทบกับพื้นได้ด้วยเหมือนกัน นอกจากนี้ยังเพิ่มมิติให้บ้านของคุณดูดีมากยิ่งขึ้นพรมสามารถที่จะช่วยเพิ่มมิติให้กับของคุณได้ค่ะ ซึ่งการที่มีพรมเพิ่มเข้ามานั้นจะทำให้ภาพรวมของห้องนั้นดูดีมากขึ้นและไม่ว่าของอะไรที่วางอยู่บนพรมนั้นก็จะดูเด่นสะดุดตาขึ้นมาตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณหรือแขกเหยียบเข้ามาภายในห้อง แถมยังลดการลื่นไถลในบ้านได้ดีพรมส่วนใหญ่แล้วจะมีการออกแบบมาให้พื้นด้านล่างนั้นสามารถกันลื่นได้เป็นอย่างดี นั่นหมายความว่ามันสามารถที่จะป้องกันการสะดุดหกล้มหรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการเจ็บปวดได้นั่นเองค่ะ หรือถ้าหากมีเรื่องไม่คาดฝันอย่างเกิดการหกล้มขึ้นมาจริง ๆ การที่มีพรมนิ่ม ๆ มารองไว้ก็สามารถช่วยลดแรงกระแทกได้ค่ะ เฉพาะอย่างยิ่งบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุจะต้องเลิก “พรมเช็ดเท้ากันลื่นสําหรับผู้สูงอายุ” โดยเฉพาะด้วย และที่สำคัญให้ความอบอุ่นกับฝ่าเท้าสำหรับข้อนี่ถ้าหากเป็นต่างประเทศก็คงจะเป็นการใช้ความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว แต่ถ้าเป็นประเทศไทยของเราก็ขอตอบเลยว่าให้ความอบอุ่นแก่ฝ่าเท้าเราได้เหมือนกันค่ะ แต่จะเป็นการให้ความอบอุ่นจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศนะคะฮ่าฮ่า บางครั้งที่อากาศภายในห้องเย็นมาก ๆ พื้นเองก็จะเย็นเช่นกัน แต่ถ้าหากมีพรมเข้ามาช่วยก็จะทำเท้าของคุณนั่นอุ่นมากขึ้น
การเลือกซื้อพรมปูพื้น
1.วัสดุในการผลิต
สำหรับวัสดุที่ใช้ในการผลิตนั้นก็มีมากมายหลายชนิด เราขออนุญาตหยิบมาอธิบายกันเฉพาะในส่วนของวัสดุจากสินค้าที่เราลิสต์มาให้ในวันนี้ก็แล้วกันครับ
- เส้นใยโพลีเอสเตอร์ ถือเป็นเส้นใยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่นำมาใช้เป็นวัสดุในการผลิตพรมปูพื้นค่ะ ซึ่งคุณสมบัติหลัก ๆ ของโพลีเอสเตอร์คือมันจะมีความนุ่ม ให้สัมผัสที่ละมุน มีโอกาสเกิดไฟฟ้าสถิตที่ผิวพรมน้อยกว่าแบบอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือวัสดุชิ้นนี้นั้นมีราคาที่ไม่แพงแต่ให้สีสันและลวดลายที่สวยงาม จึงไม่แปลกที่เส้นใยโพลีเอสเตอร์จะกลายมาเป็นที่นิยมกันอย่างมาก
- ไมโครไฟเบอร์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นใยที่เกิดการสังเคราะห์ขึ้นมานะคะ ซึ่งที่จริงแล้วมันก็อาจจะเกิดจากโพลีเอสเตอร์ 100 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจจะเป็นการผสมระหว่างโพลีเอสเตอร์กับเส้นใยสังเคราะห์อื่น ๆ แต่มันจะมีขนาดเส้นใยที่เล็กมากกว่าแบบปกติ ซึ่งจะให้สัมผัสที่นุ่มมาก ๆ ดูแลรักษาง่ายและมันยังให้สไตล์ที่ดูหรูหรามากด้วย
- เส้นใยอะคริลิก เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีน้ำหนักเบา ให้ความนุ่มและให้ความอบอุ่นคล้าย ๆ กับขนสัตว์จริง ๆ เลยค่ะ พรมที่มาจากเส้นใยประเภทนี้จะมีราคาที่ถูกกว่าพรมจากขนสัตว์มาก ๆ จึงทำให้มันเลยเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและต้องการเนื้อสัมผัสจากขนสัตว์แต่มีงบประมาณไม่มากนักนั่นเอง
- เส้นใยคอตตอน ถูกผลิตขึ้นมาจากฝ้าย คุณอาจจะคุ้นเคยกันดีกับการนำมาทำเสื้อผ้านะคะ คราวนี้พอมันอยู่ในรูปแบบของพรมก็ยังคงคุณสมบัติเหมือนเดิมเลยค่ะคือ เส้นใยนั้นจะเหนียวและทน
2. ขนาด
ขนาดของพรมนั้นจะต้องพอดีการพื้นที่ใช้งาน ดังนั้นการที่คุณจะตัดสินใจซื้อก็อย่าลืมศึกษาเรื่องขนาดรวมถึงพื้นที่ที่คุณต้องการจะติดตั้งดูก่อน หรือถ้าหากไม่แน่ใจก็ให้ลองใช้เทปทาสีติดลงบนพื้นที่ที่คุณต้องการจะวางพรมดูก่อนก็ได้ว่ากว้างหรือยาวมากน้อยแค่ไหน เพราะอย่าลืมว่าขนาดที่คุณเห็นในหน้าจอนั้นอาจจะหลอกตาคุณได้ยกตัวอย่างเช่น
- การปูพรมที่บริเวณห้องนั่งเล่นนั้น เหมือนเป็นการช่วยจำกัดพื้นที่ให้ทุกคนอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นไปในตัว ซึ่งการเลือกขนาดของพรมนั้น สามารถดูได้จากพื้นที่ของชุดโซฟาเป็นหลัก ถ้าหากไม่สามารถหาขนาดที่พอดีได้ ก็สามารถเลือกขนาดที่เลยออกมาจากชุดโซฟาเล็กน้อย หรือให้ขนาดของชุดโซฟาเลยออกมาเล็กน้อยได้ค่ะ โดยพรมที่ใช้ควรเป็นพรมที่มีขนสั้นหรือผิวเรียบ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการใช้งานและโดนกดทับค่อนข้างมาก แถมพรมลักษณะนี้ยังทำความสะอาดได้ง่ายด้วย
- การปูพื้นห้องรับประทานอาหาร เช่นเดียวกันกับห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ที่ต้องดูพื้นที่ของโต๊ะและเก้าอี้รับประทานอาหาร ว่ามีความกว้างขนาดไหน ซึ่งเวลานั่งรับประทานอาหารนั้น เก้าอี้ทั้งหมดจะต้องไม่เลยพื้นที่ที่ปูพรมออกมา จึงสามารถเลือกได้ทั้งพรมที่มีขนาดพอดีหรือมีขนาดกว้างกว่าเล็กน้อยนั่นเองค่ะ ไม่ควรเลือกแบบที่มีขนาดเล็กกว่านะคะ ส่วนพื้นผิวของพรมที่ใช้ก็ควรจะเป็นแบบขนสั้นหรือผิวเรียบ เช่นเดียวกับห้องรับแขก ที่สามารถทำความสะอาดและดูดฝุ่นได้ง่ายเหมือนกัน
3. สีและลวดลาย
- สี : สีนั้นมีผลต่อด้านอารมณ์และความรู้สึกเป็นอย่างมาก ทั้งฝาผนังและพื้นเองต่างก็ถือเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดที่มองเห็นได้ชัดเจน ดังนั้นการเลือกสีนอกจากจะเลือกจากความชอบส่วนตัวแล้วก็อย่างลืมดูเรื่องความเข้ากันของเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง สีของฝาผนัง และสไตล์ของห้องเป็นหลักด้วย
- ลวดลาย : ส่วนในเรื่องของลวดลายนั้นอาจจะต้องพิจารณาเรื่องฝาผนังด้วยเล็กน้อยเพราะถ้าหากว่าฝาผนังของคุณมีลวดลายอยู่แล้ว ทางที่ดีก็ควรเลือกพรมที่ไม่มีลวดลายจะดีกว่าค่ะ แต่ถ้าหากว่าฝาผนังของคุณนั้นเรียบเกินไปหรืออยู่ในสไตล์โมโนโทนก็สามารถเลือกพรมที่มีลวดลายเข้าไปช่วยเสริมสร้างจุดเด่นให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นได้
4.งบประมาณ
พรมนั้นถือเป็นของตกแต่งที่มีราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียวและถ้าหากว่าเป็นพรมที่ดีมาก สีสันสวยงามด้วยแล้วราคาก็ยิ่งแล้วใหญ่เลยค่ะ ดังนั้นการจะเลือกซื้อพรมปูพื้นก็ต้องเป็นไปตามสไตล์ที่คุณชอบและอยู่ในเกณฑ์ราคาที่คุณพอใจ เราขอแนะนำว่าเพื่อให้เป็นการประหยัดงบประมาณ คุณควรเลือกพรมให้เฉพาะเจาะจงกับพื้นที่ใช้งาน อย่างห้องนั่งเล่นที่คุณและครอบครัวมักจะใช้งานอยู่บ่อย ๆ ก็อาจจะเลือกเป็นพรมราคาแพงที่มีคุณภาพดีหน่อยก็ได้ค่ะ แต่สำหรับห้องรับแขกที่ไม่ค่อยมีคนใช้งานบ่อยนักก็อาจจะเลือกแบบที่มีราคาไม่แพงมากก็ได้
สรุป
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะห้องนอนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือพื้นที่ใช้สอยส่วนรวมอย่างห้องนั่งเล่นต่างก็ต้องการตกแต่งที่ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยรู้สึกดีที่ได้อยู่ในบรรยากาศนั้น ๆ ควบคู่ไปกับประโยชน์ใช้สอยที่ได้จากการตกแต่ง ซึ่งเราก็หวังว่าบทความ วิธีเลือกพรมสำหรับปูในบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องนอน เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้ชมทุกท่านครับ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องของพรมที่เรานำมาเสนอนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในบทความฉบับหน้าเรายังมีเรื่องราวของพรม มาฝากท่านผู้ชมอยู่ แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้นต้องคอยติดตามฉบับหน้าครับ สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาโดยตลอดแล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ