สำหรับในยุคปัจจุบันนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า ทีวี คือสิ่งจำเป็นที่ทุก ๆ บ้านนั้นจะต้องมี ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาเพื่อน ๆ ทุกคนไปดู สิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนซื้อชั้นวางทีวี แบบมินิมอลโมเดิร์น และ วิธีการเลือกซื้อชั้นวางทีวีให้เหมาะกับคุณมากที่สุด ในบทความเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรจะต้องรู้ไว้ก่อนจะซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ เพราะอย่างแรกชั้นวางทีวีนั้น มีขนาดที่ใหญ่และต้องอยู่ได้นาน จะไม่ใช่สิ่งของที่จะซื้อบ่อย จึงจำเป็นจะต้องเลือกให้ดีก่อนจะซื้อทุกครั้ง ซึ่งจะมีรายละเอียดและสิ่งสำคัญอย่างไรบ้าง เราไปรับชมกันเลย
ชั้นวางทีวี มีกี่รูปแบบ
- ชั้นวางทีวีทรงเตี้ย เป็นลักษณะชั้นวางที่มีฐานต่ำ เหมาะกับขนาดห้องที่กะทัดรัดและเจ้าของห้องที่มีไลฟ์สไตล์การรับชมทีวี/เล่นเกมด้วยการนั่งกับพื้นแทนการนั่งบนโซฟา ส่วนมากมักติดตั้งได้เองอย่างง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก แนะนำสำหรับคนที่อยากได้ชั้นวางขนาดเล็กเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอยและช่วยให้บรรยากาศภายในห้องไม่อึดอัด คับแคบจนเกินไป
ชั้นวางทีวีแบบบิวท์อิน เป็นรูปแบบชั้นวางขนาดกลาง – ขนาดใหญ่ ออกแบบให้มีลักษณะกว้างและสูง ตลอดจนมีช่องจัดเก็บของพร้อมกับพื้นที่จัดวางของใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่จำเป็นร่วมด้วย เหมาะกับคนที่อยากตกแต่งห้องให้เป็นสัดส่วน เป็นไปในโทนเดียวกันทั้งห้อง และสำหรับห้องที่มีพื้นที่กว้างโดยเฉพาะส่วนผนังค่อนข้างสูงและโปร่ง ซึ่งการเลือกชั้นวางทีวีลักษณะนี้จำต้องอาศัยความชำนาญของดีไซน์เนอร์และช่างผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง เพื่อให้ตรงตามแบบและเพื่อความปลอดภัยแน่นหนา
- ชั้นวางทีวีแบบเข้ามุม จะถูกดีไซน์มาให้มีรูปทรงสามเหลี่ยม สามารถจัดวางในมุมห้องได้อย่างลงตัว ไม่เสียพื้นที่ด้านหลังชั้นวางไปโดยเปล่าประโยชน์ เหมาะกับบ้านเรือนที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ห้องนั่งเล่น/ห้องที่จะวางทีวีนี้มีหน้าแคบ หากวางทีวีในแนวระนาบจะทำให้ระยะการดูทีวีใกล้เกินไป จึงอาจต้องปรับเหลี่ยมองศาของชั้นวางทีวีให้เข้ามุมแทน เพื่อช่วยเพิ่มระยะห่างระหว่างสายตากับทีวีและช่วยให้พื้นที่ใช้สอยแลดูกว้างขึ้นด้วย
วิธีการเลือกชั้นวางทีวีเบื้องต้น
- สิ่งแรกที่ต้องคำนึงเมื่อจะนำชั้นวางทีวีไปใช้งานนั้นต้องพิจารณาดูถึงขนาดห้องและสภาพแวดล้อมเพื่อการใช้งานเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพและไม่รบกวนการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ซึ่งพอได้ดีไซน์ที่ถูกใจแล้วต่อมาก็ให้มาดูที่การออกแบบชั้นวาง ซึ่งพูดถึงดีไซน์ของชั้นวางทีวีนั้นก็จะสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือชั้นที่ทำช่องเก็บของเป็น แบบเปิดโล่ง และ แบบบานเปิด ซึ่งชั้นวางทีวีแต่ละแบบนั้น ก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันอยู่เหมือนกัน โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
- แบบบานเปิด จะช่วยให้พื้นที่โดยรวมแลดูสะอาดตา ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย คุณไม่ต้องระวังการจัดวางสิ่งของภายในนักเพราะสุดท้ายก็จะมีบานประตูตู้มาช่วยปิดบังสายตาอีกชั้นหนึ่ง แล้วยังมีแง่ดีอีกอย่างคือป้องกันฝุ่นจับสิ่งของภายในได้เป็นอย่างดี ประหยัดเวลาและแรงในการทำความสะอาดได้ด้วย
- แบบเปิดโล่ง จะให้อิสระในการวางของ ต่อพวงสายไฟได้สะดวก ช่วยให้การเชื่อมต่อเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับทีวีเป็นไปได้อย่างไร้ข้อจำกัด สามารถวางเครื่องเล่นเกม, เครื่องเล่นดีวีดี, กล่องดิจิทัลแล้วเชื่อมสายไฟถึงจอทีวีได้โดยตรงเพราะไม่มีบานประตูมาปิดกั้น นอกจากนี้ ยังช่วยถ่ายเทและระบายความร้อนจากตัวทีวีและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตบางเจ้าเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น จึงได้ออกแบบชั้นวางทีวีที่ผสมผสานลักษณะทั้งสองอย่างด้านบนไว้ในหนึ่งเดียว คุณจึงไม่ต้องลังเลรักพี่เสียดายน้องอีกต่อไป หากใครที่ต้องการชั้นวางทีวีที่มีช่องจัดเก็บสิ่งของแบบเปิดโล่งและบานเปิดในชิ้นเดียวกันก็สามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ
- เลือกชั้นวางตามขนาดของหน้าจอทีวี ทีวีรุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ทำเป็นแบบจอแบนหมดแล้ว แต่ที่ต่างออกไปคือผู้ผลิตมักทำขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นและมีช่วงขนาดให้เลือกอย่างหลากหลายเพื่อเสริมสร้างอรรถรสความบันเทิงให้แก่ผู้ใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่าจอทีวีแต่ละขนาดนั้นก็มีผลต่อการเลือกซื้อชั้นวางทีวีเป็นอย่างยิ่ง วิธีการคือให้คุณเลือกชั้นวางให้เหมาะกับขนาดทีวีทั้งด้านความสูงและความกว้าง สำหรับความกว้างหรือหน้ากว้างของชั้นวาง ควรเลือกให้ครอบคลุมขนาดจอและอาจเผื่อเหลือพื้นที่ด้านข้างทั้งซ้าย-ขวาสำหรับวางอุปกรณ์อื่น ๆ อย่าง เครื่องเล่นดีวีดี, กล่องทีวีดิจิทัล, เราเตอร์ Wifi เป็นต้น ส่วนในเรื่องความสูงนั้นก็ควรคำนึงให้เหมาะแก่ลักษณะการใช้งาน กล่าวคือ ถ้าปกติคุณนั่งดูทีวีที่พื้น ก็ควรเลือกชั้นวางที่มีฐานต่ำ จะได้ไม่ต้องแหงนหน้าดูทีวีจนเมื่อยคอยังไงละคะ แต่ถ้านอนดูบนเตียงในห้องนอน ก็ให้เลือกที่มีฐานสูงขึ้นมาหรือเป็นแบบติดกับผนังแทน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องก้มศีรษะดู สำหรับใครที่กะไม่ถูก แนะนำให้เลือกชั้นวางที่เมื่อวางทีวีแล้ว สายตาของเราอยู่ตรงกับระดับจุดกึ่งกลางของจอทีวี นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงพื้นที่ส่วนบนของชั้นวางทีวีด้วย ถ้าเป็นพื้นผนังโล่งก็คงไม่มีปัญหา แต่หากว่าด้านบนของพื้นที่ส่วนนั้นมีเชลฟ์สำหรับวางสิ่งของอยู่ ก็ควรเลือกอย่างระมัดระวังซึ่งต้องมั่นใจว่าจะมีพื้นที่เหลือเพียงพอต่อการวางทีวีโดยไม่ให้ชนกับขอบเชลฟ์
- เลือกจากความสามารถในการรับน้ำหนัก
ที่เห็นกันว่าทีวีจอแบนดูเหมือนน้ำหนักเบานั้น ความจริงแล้วจอทีวีเหล่านี้มีน้ำหนักมากพอสมควร โดยเฉพาะทีวีจอใหญ่ก็จะยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นตามลำดับ แล้วอย่างที่ทราบกันดีว่าสมัยนี้ชั้นวางทีวีไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ใช้วางจอทีวีเท่านั้น แต่ยังต้องรองรับอุปกรณ์เสริม, เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเล่นเกมตลอดจนของใช้ต่าง ๆ ด้วย ดังนั้น การเลือกซื้อชั้นวางทีวีจึงต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพการรองรับน้ำหนักให้ดี นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบว่าโครงสร้างภายในของชั้นวางแบบหน้ากว้างด้วยว่าได้วางโครงสำหรับค้ำยัน/รองรับน้ำหนักในส่วนกลางไว้หรือไม่ เพราะส่วนมากแล้วเมื่อวางจอทีวีไปนาน ๆ น้ำหนักของทีวีจะทำให้แผ่นรองด้านบนค่อย ๆ แอ่นตัวลงจนหักได้ในที่สุด จึงเป็นการดีที่ควรจะเลือกชั้นวางทีวีรุ่นที่มีไม้/เหล็กค้ำยันบริเวณส่วนกลางด้วย
- เลือกจากวัสดุที่ใช้ผลิต ใครที่เคยไปเดินโชว์รูมแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ตามห้างร้านชื่อดังหรือในงานแฟร์ คงจะเห็นแล้วว่าชั้นวางทีวีที่วางขายอยู่นั้นมีรูปแบบดีไซน์ที่หลากหลายและล้วนแต่น่าสนใจทั้งสิ้น บ้างผลิตจากเหล็ก บ้างผลิตจากอะคริลิก บ้างผลิตจากไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชั้นวางทีวีที่ทำจากไม้เป็นวัสดุที่ตอบโจทย์ได้ดีเรื่องความแข็งแรง สามารถปรับเปลี่ยนดีไซน์ความสวยงามได้ทั้งความคลาสสิคและโมเดิร์น แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้นั้นเป็นรูปแบบหนึ่งที่ดูแลยาก จึงขอแนะนำผู้อ่านให้เลือกอย่างระมัดระวังและใส่ใจไปถึงสารเคลือบพื้นผิวภายนอกของชั้นวางนั้น ๆ ด้วย น้ำยาเคลือบผิวไม้ที่นิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่มีอยู่ 2 ชนิด คือ แลคเกอร์ (Lacquer) กับโพลียูริเทน (Polyurethane) ซึ่งชนิดแรกนั้นมีคุณสมบัติแห้งไว ให้ผลลัพธ์ทั้งผิวด้านและผิวเงา แนะนำสำหรับคนที่ชอบเฟอร์นิเจอร์เนื้อไม้ที่ยังคงไว้ซึ่งสัมผัสของผิวไม้อย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ชนิดโพลียูริเทนเป็นสารฟิล์มเคลือบใส ทาแล้วช่วยให้เฟอร์นิเจอร์แข็งแรง ผิวแน่นเหนียว ทนต่อแรงกด รอยขีดข่วนและสภาพความเป็นกรด-ด่างได้ดี แนะนำสำหรับคนที่อยากได้ชั้นวางทีวีที่ทนทานและดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ ชั้นวางทีวีที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูงส่วนใหญ่จะใช้น้ำยาเคลือบชนิดน้ำมัน (Oil) เพื่อเน้นความประณีตของลายไม้ให้คงอยู่อย่างสมจริงที่สุดทำให้คุณได้สัมผัสความเรียลอย่างแท้จริง แต่ด้วยความที่เนื้อฟิล์มชนิดน้ำมันมีความบางจึงไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เท่าใดนัก แถมยังต้องหมั่นดูแลรักษาสภาพเนื้อไม้ด้วยการเคลือบทับด้วยน้ำมันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งด้วย
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างครับ เพียงเท่านี้การเลือกชั้นวางทีวีให้เข้ากับห้องและบ้านของคุณก็ไม่ใช่เรื่องอยากอีกต่อไป ถ้าหากเพื่อน ๆ ได้รับชม บทความ สิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนซื้อชั้นวางทีวี แบบมินิมอลโมเดิร์น และ วิธีการเลือกซื้อชั้นวางทีวีให้เหมาะกับคุณมากที่สุด เรื่องนี้จนจบ ก็น่าจะเกิดไอเดียดี ๆ ไอเดียเจ๋ง ๆ ได้หลายแบบอย่างแน่นอน เหมือนที่ตัวผู้เขียนเองมีอยู่ในหัวแล้วเช่นกัน ส่วนในครั้งหน้าเราจะไปพาไปดู 10 อันดับชั้นวางทีวีรุ่นขายดีกันครับ ห้ามพลาดเลย