หากคุณคือหนึ่งในคนที่ชื่นชอบการเกษตร มีไอเดียอยากปลูกผักปลอดสารพิษไว้ทานเองแต่พื้นที่ที่อยู่อาศัยมีจำกัด การเลือกใช้ไอเทมยอดนิยมอย่าง “กระบะปลูกผัก” คือหนึ่งในรูปแบบการปลูกที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ได้ดีทีเดียว นอกจากนี้กระบะปลูกผักยังมีข้อดีตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทำความสะอาดก็ง่าย แถมยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณปุ๋ย ดิน หรือแม้กระทั่งวัชพืชได้อย่างง่ายอีกด้วย กระบะปลูกผักถือได้ว่ามีรูปแบบให้เลือกหลากหลายตามวิธีปลูกและประเภทผักแตกต่างกันไป ดังนั้นในวันนี้ทางทีมงานจึงจะพาทุกคนไปเรียนรู้เทคนิคการเลือกกระบะปลูกผักที่น่าสนใจ แถมยังมี 10 อันดับ กระบะปลูกผักคุณภาพดี ที่ไม่เพียงแค่มีจุดเด่นน่าใช้งานเท่านั้น แต่ยังมีดีไซน์เก๋ ๆ มาให้เปรียบเทียบ เลือกซื้อและนำไปใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านหรือพื้นที่นั้น ๆ กันอีกด้วย บทความ วิธีการเลือก กระบะปลูกผัก สำหรับสวนในบ้านสมัยใหม่ ต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง เรื่องนี้ ข้อดีหลัก ๆ ของการมีกระบะปลูกผักก็คือ ช่วยให้เราดูแลผักได้ง่าย แต่ก่อนที่จะเลือกซื้อกระบะเพื่อวางแผนปลูกผักไว้ทานเองนั้นเราก็ต้องมาศึกษากันก่อนว่า มีวิธีการเลือกอย่างไรเพื่อให้ตอบโจทย์กับการปลูกผักของคุณมากที่สุด
วิธีการเลือกกระบะปลูกผัก
- เลือกขนาดกระบะปลูกผักให้เหมาะสมกับพื้นที่ หากลองพิจารณาตามวัตถุประสงค์ของการใช้กระบะปลูกผักแล้วก็จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ก็เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่จัดวาง ช่วยแยกชนิดผักให้เป็นสัดส่วน ซึ่งในปัจจุบันกระบะปลูกผักมีให้เลือกอยู่หลายขนาดด้วยกัน และเลือกได้ตามขนาดของพื้นที่ โดยจะมีอัตราส่วนขนาดเริ่มต้นอยู่ที่หน้ากว้าง 10 – 20 เซนติเมตร x ยาว 30 – 40 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นกระบะขนาดเล็กที่สามารถจัดวางไว้ในห้องหรือในบ้านได้ ส่วนขนาดกระบะที่มีหน้ากว้าง 30 – 40 เซนติเมตร x ยาว 40 – 60 เซนติเมตร สามารถใช้ปลูกและจัดวางตามบริเวณบ้านหรือระเบียงคอนโดได้ แต่ถ้าหากคุณมีพื้นที่มากพอ มีแปลงสวนอยู่ ก็สามารถเลือกใช้กระบะใหญ่ที่หน้ากว้าง 60 เซนติเมตร x ยาว 100 เซนติเมตร เป็นต้นไปได้เลย
- เลือกกระบะปลูกผักจากวัสดุ หลังจากได้ขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ไปแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการเลือกวัสดุที่ใช้ทำกระบะที่มีทั้งไม้และพลาสติก ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อควรระวังแตกต่างกัน ดังนี้
- กระบะไม้ เพิ่มความสวยงาม
- กระบะไม้ถือเป็นกระบะที่ให้ความสวยงามและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มีข้อดีคือสามารถรักษาความชื้นได้ดี ช่วยรักษาอุณหภูมิให้กับผัก ไม่ให้ร้อนหรือเย็นเกินไป แต่มีราคาค่อนข้างสูงตามชนิดของไม้ แต่มีข้อควรระวังคือ ต้องไม่ให้กระบะชื้นมากเกินไป หรือหากหลีกเลี่ยงความชื้นไม่ได้ ขอแนะนำให้เลือกกระบะที่ผ่านการเคลือบป้องกันเชื้อราหรือปลวกมาแล้ว เพราะหากเนื้อไม้ชื้นหรือเปียกอยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้ผุพังได้ง่ายและอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคพืชตามมาได้ง่าย
กระบะพลาสติก เคลื่อนย้ายง่าย
- กระบะพลาสติกมีจุดเด่นตรงที่น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายและทำความสะอาดได้ง่าย มีราคาถูก ที่สำคัญคือไม่มีตะไคร่มาเกาะขอบ ส่วนข้อควรระวังคือหากเป็นกระบะพลาสติกแบบทึบจะมีปัญหาเรื่องอากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้เกิดการสะสมความชื้น ซึ่งถ้าหากรดน้ำมากเกินไปก็จะทำผักมีใบเหลือง รากเน่าและตายในที่สุด อีกทั้งกระบะพลาสติกยังขึ้นชื่อว่าไม่ทนต่อแสงแดด ดังนั้นจึงไม่ควรวางตากแดดนานเกินไป เพราะจะทำให้กระบะกรอบและแตกหักได้ง่าย
- เลือกความลึกให้เหมาะกับประเภทของผัก อีกหนึ่งข้อสังเกตในการเลือกกระบะปลูกผักที่เหมาะสมก็คือ การเลือกจากประเภทของผัก เพราะผักแต่ละประเภทจะมีการหยั่งรากรับสารอาหารหรือมีความยาวรากที่ตื้นลึกแตกต่างกัน แน่นอนว่าถ้ากระบะนั้นมีความลึกรองรับความยาวราก ก็จะยิ่งช่วยให้ผักสามารถโตเติบได้ต่อเนื่องและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
- ผักหยั่งรากตื้น การปลูกผักหยั่งรากตื้น เช่น ผักชี, ต้นหอม, กระเทียมหัว, คะน้า, ผักบุ้ง, ผักตระกูลผักกาด, กะหล่ำปลี, ผักชีฝรั่ง, โหระพาแบบเพาะเมล็ด, กะเพราแบบเพาะเมล็ด, ตะไคร้, ชะพลู, หอมแดง, หอมหัวใหญ่ เหล่านี้สามารถปลูกได้ในถาดหรือกระบะทั่วไปที่มีความลึกอย่างน้อย 15 เซนติเมตร นอกจากนี้หากเป็นกระบะปลูกผักแบบห้อยแขวนก็สามารถปลูกบนกระบะที่มีความลึกอย่างน้อย 10 เซนติเมตรได้เช่นกัน
- ผักหยั่งรากกลางถึงลึก สำหรับผักหยั่งรากกลางถึงลึก ถือได้ว่าเป็นผักที่ได้รับความนิยมในการปลูกไว้ในบ้านมากที่สุดตัวอย่างเช่น กะเพราะ, มะเขือ, โหระพา, แมงลัก, พริก, มะเขือ, มะเขือเทศ, ถั่วฝักยาว, แตงกวา เนื่องจากรากมีความยาวพอสมควร จึงต้องเลือกกระบะปลูกผักที่มีความลึกอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพื่อให้รากสามารถทำงานได้เต็มที่และให้สารอาหารได้ลำเลียงไปเลี้ยงส่วนใบและลำต้นต่อไป
- พืชหัว สำหรับใครที่อยากปลูกพืชหัวหรือผักที่มีรากสะสมอาหารจำพวก แครอท, หัวหอม, มันเทศ, มันฝรั่ง, บีทรูท, ขิง, ข่า ควรเลือกกระบะที่มีความลึกมากกว่า 50 เซนติเมตร เพื่อให้รากสามารถหยั่งลงในดินได้มากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่กว้างพร้อมปลูก เพราะจะต้องเลือกกระบะที่มีขนาดกว้างเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถเว้นระยะการปลูกระหว่างต้นอย่างน้อย 30 เซนติเมตร ให้มีพื้นที่สำหรับขยายขนาดของหัวใต้ดินได้นั่นเอง
สรุป
ว่ากันว่าการปลูกผักด้วยตัวเองนอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าและให้ผักสดปลอดสารพิษไว้ทานแล้ว ยังถือเป็นกิจกรรมยามว่างที่ช่วยฝึกสมาธิ คลายเครียด แถมยังช่วยให้ใจเย็นขึ้นด้วย ดังนั้นหากใครมีไอเดียหรือกำลังวางแผนจะปลูกผักทานเองอยู่ ก็อย่ารอช้ารีบไปหาหรือกดสั่งกระบะที่ถูกใจ มาไว้ปลูกผักที่คุณชอบไว้ทานกัน บทความ วิธีการเลือก กระบะปลูกผัก สำหรับสวนในบ้านสมัยใหม่ ต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง เรื่องนี้
