ปัจจัยในการเลือกซื้อบ้าน

แต่งบ้าน แต่งสวน

     จะเป็นอย่างไร? ถ้าบ้านที่เราเคยอยู่อย่างมีความสุขในเมื่อก่อนแต่ตอนนี้กลับมีแต่ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เริ่มไม่เพียงพอ จำนวนสมาชิกในบ้านที่เพิ่มขึ้น หรือจะเป็นเรื่องของการเลือกทำเลก็ตาม ปัญหาที่พบเจออาจมีความยาก ง่ายกันไปตามแต่สถานการณ์ ถ้าสามารถแก้ไขได้ก็ดีไป แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ ซ่อมไม่คุ้มก็คงต้องเลือกซื้อบ้านใหม่หรือจะหาบ้านเช่าใหม่ก็เป็นอีกทางออกที่ดีเหมือนกัน แต่จะมองหาบ้านใหม่ทั้งทีก็ต้องหาเหตุผลและหลักในการเลือกซื้อบ้านหรือเช่าบ้านมาประกอบการตัดสินใจก่อน โดยเรามีหลักในการซื้อบ้านและวิธีช่วยในการตัดสินใจได้ง่าย ๆ มาดูกันเลย

ปัจจัยในการพิจารณาระหว่าง “ซื้อบ้าน” หรือ “เช่าบ้าน”

     คำถามแรก ถ้าถามเรื่อง “ซื้อ” หรือ “เช่า” ก็ต้องพิจารณาจากวัตถุประสงค์หลักและระยะเวลาในการอาศัยอยู่เป็นหลัก เช่น วัตถุประสงค์หลักคือที่อยู่อาศัย ระยะเวลาในการอาศัยคือ 10 ปีขึ้นไป และยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงใด ๆ ให้กระทบวัตถุประสงค์หลัก ก็ควรซื้อมากกว่าเช่า เพราะแทนที่เราจะจ่ายค่าเช่าให้กับคนอื่น เราก็มาจ่ายค่างวดผ่อนบ้านเป็นของตัวเอง เป็นทรัพย์สิน เป็นหลักประกันได้ในอนาคต แต่ถ้าวัตถุประสงค์หลักเป็นไปในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น ต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานบ่อย หรือเข้าอยู่อาศัยในระหว่างการก่อสร้างบ้านหลังอื่น เป็นต้น เหตุผลเหล่านี้ควรเช่าบ้านดีกว่าซื้อ แต่หากเล็งเห็นถึงศักยภาพของที่ดินที่สามารถนำมาเก็งกำไร ลงทุน ค้าขาย และมีทุนทรัพย์พอที่จะซื้อได้ก็แนะนำให้ทำการซื้อเก็บไว้ เพราะในอนาคตอาจสร้างรายได้ให้เราได้

     ตารางเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ของการซื้อหรือเช่าบ้าน

ประเภท

ข้อดี

ข้อเสีย



ซื้อ

– เป็นเจ้าของเอง
– เป็นหลักประกันได้ในอนาคต
– ตัดสินใจต่อเติม ตกแต่งเองได้
– นำไปลงทุนต่อยอดได้ในอนาคต

– นำค่าผ่อนบ้านไปลดหย่อนภาษีได้

– มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าค่าเช่า



เช่า

– ไม่ต้องคิดมากหากย้ายที่อยู่ใหม่
– ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้มาก
– ไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่

– ไม่สามารถเป็นข้าวของได้
– ต่อเติม ตกแต่งไม่ได้เต็มที่
– เสียโอกาสในการนำค่าเช่าบ้านไปเป็นค่าผ่อนบ้าน
– มีโอกาสบอกเลิกสัญญาได้โดยไม่ทันตั้งตัว

ปัจจัยในการเลือกซื้ออสังหา

     จากข้อที่แล้วนั้นถ้าหากคุณเลือกที่จะ “ซื้อ” ก็ต้องขอบอกก่อนเลยว่าในการจะเลือกซื้อบ้านนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น เรื่องระยะทางในการเดินทางไปทำงานหรือไปธุระอื่น ๆ เป็นประจำ บ้านเก่าทรุดโทรมเกินแก้ไข ซ่อมไปก็ไม่คุ้มค่า หรือแม้แต่เพื่อนบ้านตัวแสบที่ก่อวีรกรรมไว้จนไม่อยากจะกลับไปอยู่ในบ้านเดิมเลยก็ได้ เพราะหากซื้อแล้วภาระทางการเงินและปัญหาต่าง ๆ อาจตามมาได้ เช่น ดอกเบี้ยค่าผ่อนบ้าน ค่าตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ค่าส่วนกลาง ค่าต่อเติมที่อยู่อาศัย เป็นต้น ดังนั้นหากคุณลองชั่งน้ำหนักดูแล้วว่า “ซื้อดีกว่า” เราลองมาดูปัจจัยตามหัวข้อนี้พร้อมพิจารณาไปด้วยกันเลย

1. ขนาดของที่อยู่อาศัย

แต่งบ้าน แต่งสวน

     บางคนต้องการสร้างครอบครัวใหม่ ไม่ว่าจะแต่งงาน ออกมาเริ่มต้นชีวิตเองก็ดี หรือบางคนมีสมาชิกในครอบครัวมาเพิ่ม เช่น มีลูก พ่อกับแม่ย้ายมาอยู่ด้วย รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ที่มีเยอะขึ้น (ผลจากการ Shopping online ในช่วง Flash sale) ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือต้องขยายพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บางประการ เช่น บ้านหลังปัจจุบันไม่สามารถต่อเติมได้อีกแล้ว  พื้นที่จำกัดและไม่พอแก่การอยู่อาศัย จึงจำเป็นต้องซื้อบ้านใหม่จริง ๆ ส่วนขนาดพื้นที่ต่อสมาชิกในบ้านคร่าว ๆ เราได้รวบรวมมาไว้ในตารางนี้แล้ว

จำนวนสมาชิกในบ้าน

ขนาดพื้นที่

1 คน

22 ตร.ม. ขึ้นไป

2 คน 

34 ตร.ม. ขึ้นไป

3 – 4 คน

175 ตร.ม. ขึ้นไป

 

2. รูปแบบและสไตล์บ้าน

แต่งบ้าน แต่งสวน

     บ้านหลังเก่าเมื่ออยู่มาหลายปีก็ต้องทรุดโทรมไปตามกาลเวลา โดยค่าเฉลี่ยของบ้านอยู่ที่ 50 ปี สำหรับบ้านน็อคดาวน์ และ 100 ปี สำหรับบ้านไม้ทั่วไป ไม้สัก บ้านปูน บ้านก่ออิฐ บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ หรือบ้านผนังสำเร็จรูปพรีแคสก็ตาม ตามแต่วัสดุ สภาพแวดล้อมและการดูแลรักษา บางหลังมีคนดูแลดีก็อาจมีอายุยืนเกิน 200 ปีก็มี (จากหลักฐานระยะเวลาของสิ่งก่อสร้างในโบราณสถานต่าง ๆ ) แต่ครั้นเมื่อจะรีโนเวทก็มักจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงและหากสภาพแวดล้อมรอบบ้านไม่ดี บางครอบครัวจึงเลือกที่จะซื้อบ้านใหม่เลยดีกว่า ซึ่งก็จะมีรูปแบบและสไตล์บ้านให้เลือกหลายแบบ ทั้ง Modern, Loft, Classic และบ้านที่เราสามารถสั่งปลูกสร้างเองได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกแบบไหน หากเป็นหมู่บ้านจัดสรรก็จะมีรูปแบบบ้านให้เลือกไม่มากนักในแต่ละโครงการ หากมีที่ดินเป็นของตนเองก็สามารถดาวน์โหลดแปลนบ้านให้ทางทีมรับสร้างบ้านก่อสร้างให้เลยก็ได้ ซึ่งแบบหลังนี้จะทำให้เราได้บ้านที่สวยถูกใจ สเปกตรงใจเรามากที่สุดด้วย

3. ระยะเวลาในการเดินทาง

     การเดินทางไปทำงานหรือทำธุระใด ๆ มีค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมอยู่ที่ 30 นาที/เที่ยว หรือ 60 นาที/วัน หากวันใดใช้เวลามากกว่านี้ ไม่ว่าจะรถติด ต่อคิวนาน รถขาดช่วง ก็จะทำให้เราเสียสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน ทั้งโรคเครียดจากการรอคอยเป็นระยะเวลานาน โรคเส้นเลือดขอดจากการยืนต่อคิว โรคกระเพาะมาจากความเครียดและแรงกดดันตัวเองในการไปสู่ที่หมายให้เร็วที่สุด ดังนั้นการหาที่อยู่ให้ใกล้ที่ทำงานหรือสถานที่ทำธุระเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง และที่สำคัญสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้พอสมควร โดยค่าเฉลียในการเดินทางนั้นไม่ควรเกิน 20% ของเงินเดือน/ เดือน โดยแนะนำให้หาจากทำเลที่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เพื่อลดเวลาในการเดินทาง นำเวลาที่ลดได้นั้นไปสร้างความสุข ความผ่อนคลายและเพิ่มเวลาให้กับครอบครัวดีกว่า

4. เปลี่ยนสภาพแวดล้อม

     สังคมเพื่อนบ้านเป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อย บางบ้านทะเลาะกันสักพักก็ดีกัน บางบ้านทะเลาะกันถึงขั้นจะฆ่าแกงกันเลยก็มี ส่วนใหญ่ที่พบคือปัญหาการจอดรถขวางหน้าบ้านกัน ที่ตัวเองมีจอดแต่เอาพื้นที่ไปต่อเติมทำอย่างอื่นก็มี หรือแม้กระทั่งเลี้ยงน้องหมา น้องแมวแบบปล่อยออกมาถ่ายมูลหน้าบ้านหรือในบ้านคนอื่นก็มี ปัญหาเหล่านี้ก็สร้างระดับความหัวร้อนได้มากเลยทีเดียว ทางออกเบื้องต้นก็อาจต้องหันหน้ามาเจรจากัน แล้วค่อย ๆ ยกระดับไปในเรื่องการฟ้องนิติฯ การฟ้องร้องคดีความกันเลย แต่สำหรับบางคนนั้นไม่ต้องการให้ถึงขั้นฟ้องร้อง ฆ่าแกง จึงใช้สันติวิธีนั่นคือการเลือกซื้อบ้านใหม่ไปเลย แต่อย่าลืมว่าก่อนจะซื้อบ้านใหม่ ควรสืบหาประวัติรวมถึงสภาพแวดล้อมรอบบ้านไม่ให้เป็นแบบเดิม ไม่เช่นนั้นปัญหาชวนหัวร้อนแบบเก่าจะมาอยู่ในบ้านใหม่แทน ซึ่งก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากที่อยู่เดิม

5. เปลี่ยนฮวงจุ้ย

     หลายคนทำมาค้าขายหรือรู้สึกได้ว่าช่วงนี้เจ็บป่วยบ่อย ๆ ก็จะมีการตั้งข้อสังเกตว่า “ฮวงจุ้ย” ไม่ดีหรือเปล่านะ ลองเปลี่ยนทิศทางวางสิ่งของก็แล้ว เปลี่ยนมุมห้องก็แล้ว ต่อเติมก็แล้ว แต่ไม่ดีขึ้น ถ้าจะทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ หรือรีโนเวทใหม่หมดเลยก็ต้องเสียค่าใช้จ่าที่แพงมาก เลยจำต้องขายบ้านทิ้งแล้วซื้อบ้านใหม่นั่นเอง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถป้องกันไว้ก่อนในเบื้องต้นได้ ตามหลักแล้วบ้านที่ฮวงจุ้ยดีนั้นทางบ้านต้องหันไปทางทิศใต้และทิศเหนือ บันไดควรเหยียบได้เต็มฝ่าเท้า รวมถึงการใช้สีทาบ้านเช่นกัน ลองมาเช็ครายละเอียดฮวงจุ้ยบ้านที่ดีได้จากลิสต์ด้านล่างเลย
– บ้านต้องหันไปทางทิศใต้และทิศเหนือ
– ครึ่งปีแรกนั้นต้องให้ตัวบ้านเปิดรับลมรับทรัพย์ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
–  ครึ่งปีหลังถึงจะเปิดรับลมรับทรัพย์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
–  ควรเปิดประตูหน้าต่างในช่วงเช้าหรือทั้งวันเพื่อรับทรัพย์ ให้ลมพัดผ่านเข้าบ้านถือว่ามีโชค
–  มีแสงส่องเข้าผ่านหน้าต่างเพื่อรับพลังหยาง
–  ถ้าอยากเสริมในเรื่องโชคลาภให้ใช้ สีเขียว น้ำตาล ส้ม น้ำเงิน เหลืองอ่อน
–  ถ้าอยากเสริมเรื่องการเงิน ใช้สีแดง สีส้ม สีม่วง ชมพู
–  บันไดต้องกว้างพอให้เวลาเดินเหยียบนั้นเต็มทั้งฝ่าเท้า
–  ควรเสริมน้ำพุเป็นของตกแต่งบ้าน เพราะน้ำพุช่วยในเรื่องของความมั่งคั่ง
–  ปลูกต้นไม้ ทำสวนบริเวณรอบบ้าน จะช่วยเสริมเรื่องความเจริญรุ่งเรืองในเรื่องต่าง ๆ 

6. รายได้และเงินสำรอง

แต่งบ้าน แต่งสวน

     การจะซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์นั้น สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงคือรายได้ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าหากบ้านที่เราจะซื้ออยู่ในทำเลที่ดี ทำเลแห่งธุรกิจ การค้าขาย ที่ดินตรงนั้นย่อมราคาสูงกว่าที่ดินในแถบชานเมืองหรือเขตชุมชน การที่จะเข้าไปอยู่อาศัยนั้นอาจต้องทุ่มเงินหลายล้านบาทเลยทีเดียว ดังนั้นการกำนวนรายได้ต่อการซื้อบ้านควรตั้งอยู่ในหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม เนื่องจากสถาการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันทำให้อัตราการตกงานและเลิกจ้างงานเพิ่มสูงขึ้น จึงมีความเสี่ยงสำหรับการกู้ซื้อบ้านในช่วงนี้ หากใครที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ จำเป็นต้องซื้อจริง ๆ ควรศึกษาและเตรียมตัวโดยการคำนวนวงเงินกู้ซื้อ ดังนี้

     สูตรคำนวณสำหรับหาวงเงินกู้สูงสุดจากธนาคารคร่าว ๆ

(1,000,000 x เงินเดือน) / 7,000 = วงเงินกู้สูงสุด


     ตารางจำนวนเงินผ่อนต่องวดในวงเงินที่ต้องการกู้

เงินเดือน (บาท)

จำนวนเงินผ่อนต่องวดสูงสุดต่อเดือน

วงเงินกู้สูงสุด

15,000

6,000

1,000,000

20,000

8,000

1,300,000

25,000

10,000

1,600,000

30,000

12,000

2,000,000

35,000

14,000

2,300,000

40,000

16,000

2,600,000


     ซึ่งจริง ๆ  แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ที่ไม่รีบซื้อบ้านควรมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินประมาณ 12 เดือน เพื่อรองรับเหตุจำเป็นในอนาคต

เงินเดือน
(บาท)

จำนวนเงินผ่อนต่องวดสูงสุดต่อเดือน
(บาท)

วงเงินกู้สูงสุด
(บาท)

เงินสำรองฉุกเฉิน 1 ปี
(บาท)

15,000

6,000

1,000,000

180,000

20,000

8,000

1,300,000

240,000

25,000

10,000

1,600,000

300,000

30,000

12,000

2,000,000

360,000

35,000

14,000

2,300,000

420,000

40,000

16,000

2,600,000

480,000

7. โปรโมชั่นและมาตรการรัฐ

แต่งบ้าน แต่งสวน

     หลังจากที่เราปักธงในใจแล้วว่าจะซื้อบ้านใหม่แน่นอนและได้เลือกบ้านที่ถูกใจแล้วนั้นในข้อต่อมาคือการพูดคุยกับพนักงานขาย หรือ เซลส์ ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เราสนใจนั่นเอง ว่าทางบริษัทมีโปรโมชั่นใดที่น่าสนใจหรือไม่ เช่น ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ ฟรีเฟอร์นิเจอร์ โปรฯ ช่วยผ่อน ฟรีแอร์ ฟรีค่าโอน ต่าง ๆ เป็นต้น และเช็คมาตรการช่วยเหลือผู้ต้องการซื้อบ้านจากรัฐและธนาคารจะสามารถทำให้เราไม่เสียสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่พึงได้เช่นกัน

     สำหรับปี 2564 นี้ภาครัฐก็ยังมีมาตรการในการช่วยเหลือประชาชนให้มีบ้านได้ง่ายขึ้น
– มีการลดค่าโอนและจดจำนองอสังหาฯ ลดค่าธรรมเนียมในราคาไม่เกิน 3 ล้านจาก 2% เหลือ 0.01%
– ลดค่าจำนองบ้าน จาก 1% เหลือ 0.01%
– ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0.5% ต่อปี


     ตัวอย่างธนาคารและนโยบายช่วยเหลือ

ธนาคาร

นโยบายช่วยเหลือ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

– พักชำระสินเชื่อทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
– ออกโครงการเราไม่ทิ้งกัน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1.99%

ธนาคารออมสิน

พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน

ธนาคารไทยพาณิชย์

พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน

ธนาคารกรุงเทพ

– พักชำระเงินต้น
– ขยายเวลาชำระหนี้
– ปรับยอดผ่อนรายเดือนสูงสุด 40%
– ปรับลดดอกเบี้ย
– ยกเว้นดอกเบี้ย

 

หลักในการซื้อบ้านหรือเช่าบ้าน

แต่งบ้าน แต่งสวน

     หลายคนปักธงในใจอยู่แล้วว่าจะใช้หลักเกณฑ์ใดเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกที่อยู่ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหลักในการซื้อก็ดี หรือเช่าบ้านก็ดี ก็ใช้หลักเกณฑ์คล้าย ๆ กัน เราลองมาดูกันว่าในข้อต่อไปนี้มีในตัวเลือกของคุณอยู่หรือไม่ และเมื่อเช็คเสร็จคุณสามารถนำไปพิจารณาในการเลือกซื้อเลือกเช่าได้เลย


ความจำเป็นในการซื้อบ้านหรือเช่าบ้าน
⬜ จำเป็น
⬜ ไม่จำเป็น

วัตถุประสงค์หลัก
⬜ อยู่อาศัย
⬜ ทำธุรกิจร้านค้า
⬜ ทำธุรกิจสำนักงาน
⬜ ให้เช่า
⬜ อื่น ๆ ……………..

รายได้ของคุณสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในเรื่องใดบ้าง
⬜ ค่าผ่อนบ้าน/ค่าเช่าบ้าน
⬜ ค่าส่วนกลาง
⬜ ค่าต่อเติม
⬜ ค่าซ่อมแซม
⬜ อื่น ๆ

ความมั่นคงในอาชีพ
⬜ มั่นคง
⬜ ไม่มั่นคง
⬜ อื่น ๆ ……………..

การตัดสินใจ
⬜ ตัดสินใจเอง
⬜ ผ่านครอบครัว
⬜ อื่น ๆ ………………

พื้นที่ใช้สอยสามารถรองรับจำนวนสมาชิกในครอบครัวได้หรือไม่
⬜ ได้
⬜ ไม่ได้

ลักษณะความพร้อมเข้าอยู่
⬜ พร้อมเข้าอยู่
⬜ ไม่พร้อมเข้าอยู่ …………………………….

รูปแบบบ้านสวยถูกใจหรือไม่
⬜ สวย
⬜ เฉย ๆ
⬜ ไม่ถูกใจแต่ต่อเติมได้ภายหลัง
⬜ อื่น ๆ ……………………………….

ความสะดวกในการเดินทาง
⬜ ติดถนนใหญ่
⬜ ใกล้รถไฟฟ้า
⬜ ใกล้ป้ายรถเมล์
⬜ ใกล้ที่ทำงาน
⬜ ใกล้แหล่งธุรกิจและการจ้างงาน
⬜ ใกล้โรงพยาบาล
⬜ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว
⬜ อื่น ๆ …………………..


บ้านที่จะซื้อหรือเช่านั้น

วัสดุที่ใช้มีความคงทน แข็งแรง เหมาะสมกับราคา/ค่าเช่าหรือไม่
⬜ วัสดุโครงสร้างบ้านและหลังคา
⬜ วัสดุก่อผนัง วงกบหน้าต่าง วงกบประตู
⬜ ระดับคุณภาพของสุขภัณฑ์
⬜ อื่น ๆ ……………….

ปัญหาที่พบ
⬜ รอยคราบตามเพดาน ผนังและพื้น
⬜ รอยคราบ รอยสกปรก ตำหนิ บนเฟอร์นิเจอร์
⬜ ระบบความปลอดภัย : กลอน ลูกบิด เหล็กดัด
⬜ มีโพรงใต้บ้าน
⬜ มีดินทรุดบริเวณรอบบ้าน
⬜ รอยแตกบนกำแพง
⬜ พื้นระเบิด กระเบื้องลั่น ไม้ลั่น ปาเก้หลุด หรือพื้นผิวลอก
⬜ สีหรือวอลเปเปอร์ลอก
⬜ มีการต่อสายดินอย่างถูกต้องหรือไม่
⬜ อื่น ๆ ……………………………………….

บ้านนี้มีประวัติในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือไม่
⬜ มี
⬜ ไม่มี
⬜ อื่น ๆ ……………………….

ก่อสร้างตามหลักฮวงจุ้ยหรือไม่
⬜ เป็นไปตามหลัก
⬜ ไม่เป็นไปตามหลัก
⬜ อื่น ๆ …………………

พื้นที่สามารถขยายรองรับการต่อเติมและดัดแปลงทำธุรกิจในอนาคตได้อย่างเหมาะสมหรือไม่
⬜ ได้
⬜ ไม่ได้

สภาพแวดล้อมโดยรอบ
⬜ เพื่อนบ้านดี
⬜ บรรยากาศร่มรื่น
⬜ เป็นส่วนตัว
⬜ มีการแยกสัดส่วน/แปลนโครงการที่ดี
⬜ อื่นๆ ……………………….

ชื่อเสียงบริษัทของโครงการ (ถ้ามี)
⬜ ดี
⬜ ปานกลาง
⬜ ไม่ดี

โปรโมชั่น ของแถม
⬜ ฟรีเฟอร์นิเจอร์
⬜ ฟรีค่าส่วนกลาง
⬜ ฟรีตกแต่งพร้อมเข้าอยู่
⬜ ฟรีค่าโอน+ค่าธรรมเนียม
⬜ อยู่ฟรี
⬜ อื่น ๆ ……………………

     โดยสรุปแล้ว ปัจจัยในการเลือกที่อยู่อาศัยก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์หลักของแต่ละคน แต่ละครอบครัว ซึ่งบทความเหล่านี้จะมีหลักในการซื้อบ้านหรือเช่าบ้านที่สมารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และที่ควรซื้อบ้านในช่วงนี้นั้นก็จะเป็นผลดีเรื่องความปลอดภัยจากไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 นั่นเอง เนื่องจากการอยู่อย่างแออัดหรืออยู่คอนโดต้องมีการใช้ลิฟท์ ใช้ที่จับประตูร่วมกันเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เสี่ยงต่อการติดโรคได้ง่าย รวมถึงความสะดวกในการ work from home อีกด้วย



เครดิต :

https://www.ddproperty.com/

https://www.baania.com/

https://www.livingpop.com/

https://moneyhub.in.th/

https://www.jorakay.co.th/

ปัจจัยในการเลือกซื้อบ้าน